ทุกครั้งผมก็จะตอบกลับไปว่าถือหุ้นให้มันพอดีๆกับตัวเอง
แล้วอะไร คือ "ความพอดี" ??!!
ถ้าเปรียบความพอดีกับหลักทางพระพุทธศาสนานั้นก็อาจจะเปรียบได้เป็น "ทางสายกลาง" ทางซึ่งไม่ตึงจนเกินไปและไม่หย่อนจนเกินไป การถือครองหุ้นก็เช่นเดียวกัน ควรจะถือแต่พอดี ไม่มากตัวจนเกินไปและไม่น้อยตัวจนเกินไป
ดังนั้นก่อนจะรู้จักกับความพอดีในการถือหุ้น ต้องรู้ก่อนว่าการถือหุ้นมากหรือน้อยจะส่งผลกับชีวิตของเราอย่างไร
![]() |
Source: Internet |
1. ถือหุ้นมากต้องมีเวลาให้ ?
คงเคยได้ยินกันมาบ้างว่าการเลือกซื้อหุ้นก็เหมือนกับการเลือกแฟน ต้องใช้เวลาศึกษาดูใจ บางคนอาจดูทั้งบุคลิก รูปร่าง หน้าตา ลักษณะนิสัย ฐานะการเงิน การศึกษา ครอบครัว และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งก็เหมือนกับการเลือกหุ้น ถ้าหวังจะลงทุนในระยะยาวก็ต้องศึกษาหุ้นตัวนั้นให้เข้าใจเสียก่อน จนเกิดความมั่นใจว่าสามารถที่จะฝากชีวิตเอาไว้กับหุ้นตัวนั้นได้แล้วจึงตัดสินใจซื้อ แต่ถ้าใครต้องการแค่เก็งกำไรก็ไม่ต้องเสียเวลาดูพื้นฐานมากนักนะครับ ดูแค่กราฟก็พอแล้ว^^
แต่ในที่นี้หุ้นที่อยู่ในพอร์ต ผมขอเปรียบให้เป็นเหมือนกับ "ลูก" ของเราก็แล้วกัน เพราะ หุ้น ก็เหมือนกับสิ่งที่ต้องดูแลกันต่อไป
แน่นอนที่สุดถ้ามีหุ้นหลายตัว ก็ควรที่จะต้องมีเวลาติดตามความเคลื่อนไหวของหุ้นนั้นๆ จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับลักษณะของผู้ซื้อ เช่น ถ้าเป็นนักลงทุน ต้องดูงบการเงิน, ดูงบรายไตรมาส, ศึกษาอุตสาหกรรมและธุรกิจนั้นๆบ่อยครั้งมากน้อยแค่ไหน และจำเป็นต้องดูการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นหรือไม่ ก็ตามแต่ลักษณะนิสัยการลงทุนของแต่ละคน และเช่นกันถ้าเป็นเทรดเดอร์ ต้องติดตามความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น และข่าวสารที่อาจจะมากระทบต่อบริษัท รวมถึงดูพื้นฐานหุ้นเบื้องต้นอาจะเป็นรายวันหรือบางคนอาจเป็นรายชั่วโมงก็เป็นไปได้
ดังนั้นไม่มีใครรู้ถึงความพอดีในสไตล์การลงทุนได้ดีเท่าตัวเราเอง
ถ้ามีเวลาและดูแลได้ทั่วถึงก็สามารถถือครองหุ้นได้มากตัวกว่าคนที่ไม่ค่อยมีเวลา ซึ่งจะได้ไปโฟกัสในหุ้นที่มีอยู่ได้อย่างเต็มที่ แต่ทั้งนี้ผมไม่แนะนำให้ถือหุ้นเกิน 10 ตัว เพราะเชื่อว่าจะดูแลได้ไม่ทั่วถึงแล้ว
2. ถือหุ้นน้อยมีความเสี่ยง ?
Warren Buffett บอกกับเราว่า "Do not put all eggs in one basket." หรือ "อย่าใส่ไข่ไว้ในตะกร้าใบเดียว"
ปู่ Buffett ได้พยายามบอกถึง "การกระจายความเสี่ยง" กับพวกเรา โดยอย่าทุ่มลงทุนทั้งหมดกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพียงอย่างเดียว เพราะถ้าพลาดขึ้นมานั้นหมายถึงศูนย์ทันที
นำแนวคิดนี้มามองในการถือครองหุ้นอาจกล่าวได้ว่า ไม่ควรถือหุ้นใน Sector/อุตสาหกรรม เดียวกันทั้งพอร์ต และไม่ควรถือหุ้นตัวเดียวทั้งพอร์ต เพราะความแน่นอนคือความไม่แน่นอน ไม่ว่าเราจะมั่นใจในการเลือกสรรหุ้นที่เราซื้อมาเป็นอย่างดีแล้วก็ตาม แต่เราทุกคนมีสิทธิ์ที่จะพลาดกันได้ และไม่มีอะไร 100% บนโลกใบนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป เป็นธรรมชาติของชีวิตทั้งสิ้น
ดังนั้นคำแนะนำของผม คือ ควรถือหุ้นอย่างน้อย 2-3 ตัวขึ้นไปแล้วแต่กำลังความสามารถของแต่ละบุคคล และกระจายไปในหลายๆอุตสาหกรรม
Never invest all of your money in one industry or in one company.
Hybrid Investor
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น