วันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2557

Time Frame Selection - การเลือกใช้ Time Frame

Time Frame Selection - การเลือกใช้ Time Frame

Time Frame (TF) คือ ช่วงระยะเวลา ที่ใช้ดู/วิเคราะห์กราฟทางเทคนิค ประกอบไปด้วยหลายช่วงเวลาด้วยกัน
โดย TF ใหญ่กว่าจะครอบ TF เล็กกว่า เช่น กราฟ Week 1 แท่ง คือ กราฟ Day 5 แท่ง รวมกัน (กราฟ Week 1 แท่ง ประกอบไปด้วย ราคาเปิด ราคาสูงสุด ราคาต่ำสุด ราคาปิด ของสัปดาห์นั้นๆ)
กล่าวคือ การดู Week ก็เหมือน ได้มองภาพที่ใหญ่กว่าครอบคลุมภาพระยะวันถึง 5 วัน

คำถามมีอยู่ว่า ใช้ TF ไหนถึงจะเหมาะสมถูกจริตกับตัวเองมากที่สุด !!??


Source: Internet


คำตอบ คือ ต้องมาดูตัวเองก่อนว่าเราเป็น นักลงทุน/เทรดเดอร์ ประเภทไหน
มีนิสัยในการเทรดอย่างไร มีวิธีการซื้อขายหุ้นอย่างไรที่สบายใจ และที่สามารถทำตามแบบแผนที่วางไว้ได้อย่างเคร่งครัด

ผมขอแบ่งประเภท TF ต่างๆให้เข้ากับลักษณะนิสัยในการลงทุน/เทรด ดังนี้

TF: Month
เหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาว หรือ VI โดยอาจจะเป็นเจ้าของกิจการ ผู้บริหาร หรือผู้ที่มีเวลาน้อยในการวิเคราะห์กราฟหุ้น เพราะต้องโฟกัสในงานหลักของตัวเอง โดย TF นี้เหมาะสำหรับการเลือกหุ้นพื้นฐานดีเท่านั้น ดังนั้นการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานจึงสำคัญมาก เช่น การวิเคราะห์เศรษฐกิจ, อุตสาหกรรม และตัวธุรกิจ เพราะซื้อแล้วถือยาวเป็นปีๆ และไม่หวั่นไหวกับการแกว่งตัวของราคา 
TF นีมีโอกาสในการชนะตลาดได้อย่างยั่งยืนที่สุด

TF: Week
เหมาะสำหรับนักลงทุนระยะกลาง/ยาว หรือ VI อาจจะวิเคราะห์แนวโน้มจาก TF Month มาก่อน แล้วจึงดู TF Week/Day เพื่อหาจังหวะเข้าซื้อ โดย TF นี้เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาวิเคราะห์กราฟทุกวัน แต่ต้องการลงทุน ไม่สนใจกับข่าวรายวัน และการแกว่งตัวของราคาในระยะสั้น ดังนั้น TF นี้จึงเหมาะกับการเลือกหุ้นพื้นฐานดีเช่นกัน

TF: Day
เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาวิเคราะห์หุ้นทุกๆสิ้นวัน ผู้ที่ต้องการติดตามราคาอย่างใกล้ชิด และอาจสนใจข่าวหุ้นที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาหุ้น โดย TF นี้เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบเก็งกำไรในหุ้นอาจจะถือจบในสัปดาห์ หรือ 1-2 สัปดาห์ โดยอาจจะดูแนวโน้มของหุ้นจาก TF Week มาก่อนและหาจังหวะเข้าซื้อและขายจาก TF Day

TF: Intraday (1, 5, 10, 15, 30, 45, 60, 120 Min)
เหมาะสำหรับผู้ที่รักความเร็ว เก็งกำไรแบบ Day Trade ซื้อขายจบในวัน การใช้ TF นี้ควรจะมีเวลาเฝ้าหน้าจอเกือบทั้งวัน เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของราคา โดยอาจทำการบ้านมาก่อนจาก TF Day หรือ 60 Min ว่าหุ้นตัวนั้นมีโอกาสขึ้น แล้วจึงหาจังหวะเข้าซื้อและขายจาก TF ที่เล็กลงมา แล้วแต่ความพอใจของแต่ละคนว่าชอบเล่นสั้นขนาดไหน



ความแน่นอนของแต่ละ TF
- ยิ่งใช้ TF ใหญ่ก็จะมองภาพที่ใหญ่ครอบคลุมมากขึ้น และมีความแน่นอนมากขึ้น

- ยิ่งใช้ TF สั้น ราคาก็จะผันผวนมาก และเครื่องมือทางเทนนิคคอล ก็จะมี Fault Signal มากขึ้นเช่นกัน

มุมมองของแรงซื้อแรงขาย - TF ใหญ่ แนวโน้มลง แต่ TF เล็ก แนวโน้มขึ้น ให้มองว่าน่าจะขึ้นแล้วมีแนวโน้มจะย่อเพราะแรงกดของคนที่ติดดอยอยู่รอจะขาย หรือคนที่ซื้อแล้วอยากจะขาย (ถ้าไม่มีแรงซื้อเข้ามาเปลี่ยนทรงกราฟ TF เล็กจน Break Out) - TF ใหญ่ แนวโน้มลง แต่ TF เล็กขึ้นและย่อไม่ต่ำ กว่า Low เดิม มีแนวโน้มว่า TF ใหญ่จะสร้างเป็นฐาน อาจทำให้เกิดแนวโน้มขึ้นทีแข็งแกร่งมากกว่าเดิม (อย่างไรก็ตามต้องระวังอาจหลุด Low เดิมได้เสมอ) - TF เล็กหลุด Low เดิม แต่ TF ใหญ่ไม่หลุด ก็ยังถือว่าอยู่ในทิศทางที่ดีอยู่ อาจจะพิจารณาซื้อเพิ่ม (แต่ก็ต้องระวังอาจมีความเป็นไปได้ที่จะหลุดทั้ง  TF เล็ก และ TF ใหญ่)

สรุป
TF Year - ดูแนวโน้ม ระยะปีขึ้นไป TF Month - ดูแนวโน้มระยะเดือนขึ้นไป - ปี TF Week - ดูแนวโน้มระยะสัปดาห์ขึ้นไป - เดือน TF Day - ดูแนวโน้มระยะวันขึ้นไป - สัปดาห์ TF Intraday ดูแนวโน้มในวันลงมา

สิ่งที่สำคัญ คือ
"ซื้อที่ TF ไหน..ควรขายที่ TF นั้นเสมอ"


Pick the best TF for yourself,

Hybrid Investor

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น