วันเสาร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

3 เทคนิคง่ายๆของการออมในหุ้น ด้วยกลยุทธ์ DCA

3 เทคนิคง่ายๆของการออมในหุ้น ด้วยกลยุทธ์ DCA 

การออมเป็นพื้นฐานที่สำคัญของความมั่นคงในชีวิต โดยทั่วไปถ้าพูดถึงการออม คนส่วนใหญ่จะนึกถึงการนำเงินไปฝากธนาคาร, ซื้อสลากออมสิน หรือซื้อกองทุนรวมต่างๆ โดยอาจจะมองข้ามการออมในหุ้นไป ทั้งนี้อาจเพราะคิดว่าการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์จำเป็นจะต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก แต่จริงๆแล้วยังมีอีกหนึ่งวิธีของการลงทุนในหุ้นโดยใช้เงินไม่มากนัก และเหมาะสำหรับมนุษย์เงินเดือนเป็นอย่างยิ่ง วิธีนี้เรียกว่า 
"DCA (Dollar Cost Average)"


Source: Internet
จากรูปจะเห็นว่า ถ้าเราซื้อหุ้นครั้งเดียวที่ราคา 10 เหรียญ/หุ้น ด้วยเงิน 8,000 เหรียญ
กับเราซื้อหุ้น 8 ครั้งที่ราคาต่างกัน ครั้งละ 1,000 เหรียญ โดยเมื่อเฉลี่ยได้ราคาต้นทุนที่ 9.61 เหรียญ/หุ้น
หากราคาในปัจจุบันอยู่ที่ 10 เหรียญ เราจะพบว่า
ผลตอบแทนจากการลงทุนครั้งเดียว = 0%
ผลตอบแทนจากการลงทุน 8 ครั้ง (DCA) = 4.07%
DCA คือ กลยุทธ์เฉลี่ยการลงทุน กล่าวคือ เป็นการลงทุนที่ช่วยลดความผันผวนของ Port การลงทุน และช่วยสร้างผลตอบแทนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นการบริหารความเสี่ยงรูปแบบหนึ่ง โดยผู้ลงทุนต้องลงทุนอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำ เช่น กำหนดว่า จะลงทุนทุกๆวันที่นี้ของเดือนเป็นจำนวนเงินเท่าๆกัน..

ข้อดึของ DCA คือ ช่วยสร้างวินัยการลงทุนให้กับนักลงทุน และช่วยลดความผันผวนของต้นทุนที่ซื้อหุ้น เพราะเราได้ซื้อหุ้นในทุกๆเดือน อาจจะซื้อได้ที่ราคาสูงบ้างหรือต่ำบ้าง กล่าวคือ เราจะซื้อหุ้นได้จำนวนน้อยเมื่อราคาหุ้นสูงขึ้น และซื้อหุ้นได้จำนวนมากเมื่อราคาหุ้นต่ำลง โดยในระยะยาวนั้นต้นทุนเฉลี่ยของหุ้นใน Port จะต่ำกว่าราคาเฉลี่ยของตลาดในที่สุด อีกทั้งยังได้รับเงินปันผล/หุ้นเพิ่มทุน ตามประกาศของแต่ละบริษัท

การลงทุนด้วยกลยุทธ์ DCA เหมาะสำหรับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นพนักงานบริษัทหรือเจ้าของธุรกิจ จะเป็นคนที่เพิ่งเริ่มทำงานหรือทำงานมานานแล้วก็ตาม อีกทั้งผู้ที่ไม่มีความรู้ในการลงทุน และไม่มีเวลาติดตามข้อมูลข่าวสารการลงทุน ล้วนสามารถลงทุนด้วยกลยุทธ์นี้ได้ทั้งสิ้น


Source: Internet

ผมมี 3 เทคนิคง่ายๆของการออมในหุ้น ด้วยกลยุทธ์ DCA มาแนะนำดังนี้ครับ

1. กำหนดเงินออมในหุ้นให้ชัดเจน

โดยปกติ 
รายได้ - รายจ่าย = เงินออม

ให้เปลี่ยนเป็น
รายได้ - เงินออม = รายจ่าย

กล่าวคือ ให้ตั้งงบประมาณเงินออมให้แน่นอนไปเลย เช่น เราจะออมเงินไว้ลงทุน 5% หรือ 10% ของรายได้ต่อเดือน หรืออาจจะมากกว่านั้นแล้วแต่ความพอใจและเหมาะสม 
และเมื่อรายได้ต่อเดือนเข้าบัญชีธนาคารให้หักเงินส่วนนี้ออกมาก่อนเลยทันที ส่วนเงินที่เหลือค่อยนำไปบริหารจัดการเป็นค่าใช้จ่ายต่อไป


2. กำหนดวันลงทุนที่แน่นอน

หลังจากที่เรากำหนดเงินออมในการลงทุนได้แล้วนั้น สิ่งต่อไปคือ เราต้องกำหนดวันลงทุนที่แน่นอนในแต่ละเดือน เช่น เรารู้ว่าเงินเดือนเราออกทุกวันที่ 25 ของเดือน เราก็กำหนดวันลงทุนไว้วันที่ 28 ของทุกเดือน พอถึงวันที่ 28 เราก็นำเงินออมนั้นมาซื้อหุ้นทันทีโดยไม่สนใจราคาว่าจะขึ้นหรือลงอย่างไร

การกำหนดวันลงทุนนี้มีความสำคัญมาก เพราะ หัวใจของการออมในหุ้นด้วย DCA คือการมีวินัยลงทุนอย่างสม่ำเสมอนั่นเอง


3. เลือกหุ้นที่จะลงทุน

การออมในหุ้นนั้นใช่ว่าเราจะออมในหุ้นได้ทุกตัว แต่เราต้องดูปัจจัยพื้นฐานเบื้องต้นของหุ้นที่จะออมไว้ลงทุนเสียก่อน เราต้องมองว่าหุ้นตัวใดหรือธุรกิจใดที่จะเติบโตได้อย่างมั่นคงในระยะยาว โดยหุ้นที่เราจะออมนั้นควรเป็นหุ้นพื้นฐานดี มีปันผลสม่ำเสมอ และควรเป็นหุ้นที่ไม่อิงกับกระแสข่าวต่างๆมากนัก 
จุดเริ่มต้นในการหาหุ้น อาจหาจากสิ่งที่อยู่รอบตัวเราและครอบครัว ว่ามีความชอบ หรือได้ใช้สินค้าและบริการอะไรอยู่ป็นประจำบ้าง และดูถึงความได้เปรียบทางธุรกิจ เปรียบเทียบคู่แข่งต่างๆ เป็นต้น


ส่วนตัวผมแนะนำให้หาหุ้นที่เป็นเบอร์ 1 ในแต่ละอุตสาหกรรม ที่มีการเติบโต มีกำไร และมีปันผลสม่ำเสมอทุกปี (EPS ควรเพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอหรือไม่น้อยกว่าเดิม, ROA และ ROE ควรมากกว่า 10 ขึ้นไป) เป็นธุรกิจที่อยู่ใน Trend ที่จะเติบโตในอนาคต หรือ ยังไงคนก็ต้องใช้สินค้า/บริการ นั้นอยู่ดี 

อาจเลือกธุรกิจที่เราเข้าใจได้ง่าย โดยในตอนเริ่มต้นอาจลองพิจารณาเลือกมา 1 - 3 ตัว และในอนาคตเมื่อมีรายได้เพิ่มมากขึ้นก็ควรที่จะเพิ่มเงินออมในหุ้นให้มากขึ้นด้วย และพิจารณาเพิ่มจำนวนหุ้นแล้วแต่ความเหมาะสมต่อไป 

และสิ่งที่สำคัญ คือ ต้องมีความสม่ำเสมอในการลงทุนในระยะยาวเพื่อให้เงินออมในหุ้นนั้นทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพที่สุด


The more frequent the investments, the better it works.

Hybrid Investor




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น