ใกล้จะสิ้นปีแล้ว เพื่อนๆที่ทำงานหนักกันมาตลอดทั้งปี ก็กำลังจะได้รับรางวัลที่รอคอย นั้นก็คือ “เงินโบนัส” นั่นเอง เชื่อว่าหลายคนมีแผนการนำเงินก้อนนี้ไปใช้แล้ว โดยอาจจะนำไปซื้อสิ่งของที่ได้หมายตาไว้ หรือนำไปท่องเที่ยวเพื่อให้รางวัลชีวิตกับตัวเอง แต่จะดีหรือไม่หากเรารู้วิธีที่จะสามารถนำเงินโบนัสนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ใช่แล้วครับ.. ในวันนี้ผมจะมาแนะนำการนำเงินโบนัสไปต่อยอดในรูปแบบที่ง่ายและมีประสิทธิภาพ !
Image courtesy of fantasista at FreeDigitalPhotos.net |
· เริ่มต้นจากวางแผนแบ่งสัดส่วน
จากสมการเงินออมที่เรารู้จักกัน
รายได้ (โบนัส) – รายจ่าย = เงินออม/เงินลงทุน
จากสมการข้างต้น ถ้าเรานำเงินไปใช้จ่ายเสียก่อน แล้วจะเหลือเงินออมกันซักเท่าไหร่ ดังนั้นเปลี่ยนสมการเป็น
รายได้ (โบนัส) – เงินออม/เงินลงทุน = รายจ่าย
กล่าวคือ ได้เงินมาเท่าไหร่ให้แบ่งเงินออมและเงินลงทุนออกมาก่อน โดยอาจจะแบ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ก็ได้ เช่น 50% ของเงินโบนัส แล้วที่เหลือค่อยนำไปใช้จ่ายให้รางวัลชีวิตกับตัวเองต่อไป
เพราะเงินออมเหล่านี้แหละครับ ที่จะสามารถงอกเงยและเติบโตได้ถ้าเรารู้จักนำไปลงทุน ซึ่งการลงทุนก็มีมากมายหลายรูปแบบ แต่ในที่นี้ผมจะยกการลงทุนที่เหมาะกับมนุษย์เงินเดือนมากที่สุดรูปแบบหนึ่ง เน้นการลงทุนที่ง่ายและมีเงินไม่มากก็ลงทุนได้ นั่นก็คือ
การลงทุนผ่าน “กองทุนรวม”
· ทำความรู้จักกองทุนรวมกันซักนิด
กองทุนรวม (Mutual Fund) คือ โครงการลงทุนที่ระดมเงินทุนจากนักลงทุนมารวมกัน จากนั้นนำเงินไปลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินประเภทต่างๆตามนโยบายการลงทุนที่ได้ระบุไว้ โดยนักลงทุนจะได้รับ “หน่วยลงทุน” (Unit Trust) เพื่อเป็นหลักฐานความเป็นเจ้าของในเงินลงทุน โดยมีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนเป็นผู้บริหารกองทุนรวมให้ได้ผลตอบแทน แล้วนำมาเฉลี่ยคืนให้กับนักลงทุนตามสัดส่วนที่ลงทุนไว้ในกองทุนรวมนั้นๆ
หรือกล่าวให้ง่ายได้ว่า หากเราต้องการลงทุนแต่ไม่มีเวลาติดตาม ไม่มีความรู้ หรือไม่มีประสบการณ์มากนัก การนำเงินไปฝากไว้กับกองทุนรวมที่มีมืออาชีพคอยบริหารจัดการเงินลงทุนให้เรา ดูจะเป็นทางออกที่ไม่เลวทีเดียว
(อ่านเพิ่มเติมกองทุนรวมคืออะไร https://www.krungsri.com/bank/th/PersonalBanking/InvestmentProducts/MutualFund/WhatisMutualFund.html)
· เลือกกองทุนรวมไหนดี
กองทุนรวมนั้นมีมากมายหลากหลายประเภทซึ่งแตกต่างกันในรายละเอียด เพื่อให้เพื่อนๆสามารถนำไปพิจารณาตัดสินใจลงทุนได้ง่าย ในที่นี้ผมจะแบ่งประเภทของกองทุนรวมตามระดับความเสี่ยง ใครที่อายุยังน้อยหรือรับความเสี่ยงได้มากก็สามารถที่จะเลือกกองทุนที่มีความเสี่ยงสูง หรือผู้ที่ไม่ชอบรับความเสี่ยงมากนักก็สามารถที่จะเลือกกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำได้ ดังนี้ครับ
ü กองทุนรวมแบบความเสี่ยงต่ำ
- กองทุนรวมตราสารหนี้ (Fixed Income Fund): กองทุนนี้จะนำเงินไปลงทุนในตราสารหนี้ประเภทต่างๆ เช่น พันธบัตรรัฐบาล, ตั๋วเงินคลัง หรือหุ้นกู้ ซึ่งให้ผลตอบแทนที่มีความสม่ำเสมอ
- กองทุนรวมตลาดเงิน (Money Market Fund): กองทุนรวมตลาดเงินมีนโยบายการลงทุนที่คล้ายกับกองทุนรวมตราสารหนี้ เป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำเหมาะสำหรับการลงทุนระยะสั้นของผู้ที่ไม่ต้องการความเสี่ยง
ü กองทุนรวมแบบความเสี่ยงปานกลาง
- กองทุนรวมแบบผสม (Balanced Fund): เป็นการผสมกันระหว่างการลงทุนในตราสารหนี้ และตราสารทุน หรือหุ้นนั้นเอง เหมาะสำหรับผู้ที่ยอมรับความเสี่ยงได้ปานกลาง โดยกองทุนรวมประเภทนี้จะให้ผลตอบแทนและความเสี่ยงที่หลากหลายขึ้นอยู่กับสัดส่วนของการลงทุนในตราสารแต่ละประเภท
ü กองทุนรวมแบบความเสี่ยงสูง
- กองทุนรวมตราสารทุน (Equity Fund): กองทุนนี้จะนำเงินไปลงทุนในตราสารทุนประเภทต่างๆ เช่น หุ้น, ใบสำคัญแสดงสิทธิในการซื้อหลักทรัพย์ (Warrant) หรือหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอื่นๆ
สิ่งสำคัญต่อมาในการพิจารณา ไม่ว่าจะสนใจลงทุนในกองทุนประเภทใดก็ตาม คือ ต้องศึกษาวัตถุประสงค์ของการลงทุน นโยบายการลงทุน เงื่อนไขการลงทุน ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่าย รวมถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ และควรดูผลการดำเนินงานของกองทุนในอดีต สภาพคล่องในการซื้อขาย และความสามารถในการบริหารจัดการกองทุนของผู้จัดการกองทุนนั้นๆ สิ่งเหล่านี้ต้องพิจารณาให้รอบคอบก่อนการตัดสินใจลงทุนเสมอ
แน่นอนว่าการลงทุนมีความเสี่ยง แต่ด้วยอัตราเงินเฟ้อในปัจจุบัน เงินมูลค่าเท่ากันในวันนี้จะด้อยค่าลงในวันข้างหน้า ดังนั้นการที่ไม่ลงทุนกลับมีความเสี่ยงยิ่งกว่า เริ่มออมและลงทุนในวันนี้เพื่อชีวิตที่ดีในวันข้างหน้าครับ
Enjoy,
Hybrid Investor
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น